การเชื่อมต่อกับวัฒนธรรมช่วยให้ได้สัมผัสความงามทางศิลปะ
มาดื่มด่ำเสน่ห์ แห่งเวียดนามกัน แต่มาทำความรู้จักเวียดนามกันสักหน่อย รู้ว่าหลายคนรู้จักเวียดนามเป็นอย่างดีแล้ว ก็เพิ่มอีกนิดก็พอแล้วกัน เวียดนามเป็นประเทศที่มีธรรมชาติสวยงาม อย่างน่าทึ่ง มีหลาย เมืองเป็นศูนย์กลาง ทางเศรษฐกิจ วัฒนธรรม ทั้งเหนือ กลาง ใต้ สามารถสัมผัสประสบการณ์ ที่แตกต่าง ยิ่งเดินทางยิ่งเจอกับความแปลกใหม่ รวมทั้งความหลากหลาย ทางภูมิศาสตร์ ทิวทัศน์ อันสวยงาม ทุ่งข้าวเขียวขจีใน ซาปา Sapa ทะเลทรายที่ มุ่ยเน่ Mui Ne ล่องเรือทราบกลาง ภูเขาหิน ในอ่าว ฮาลอง Halong Bay พร้อมกาแฟรสชาติเข้มข้น ทั้งหอมทั้งขม แต่มีเสน่ห์แบบอบอุ่น ณ นครโฮจิมินท์ ยังมีสถาปัตยกรรมแบบยุคอาณานิคมแบบฝรั่งเศล สวยคลาสสิก แต่สำหรับเรามองยังไงก็ดูเศร้า ก็มีเสน่ห์แบบเศร้าๆ และยังมีเมือง เว้ Hue และเมืองฮอยอัน Hoi An และอีกมากมายหลายเมือง
หลงเสน่ห์ที่เข้มข้นรสขมหอมแต่มีมนต์เสน่ห์กาแฟเวียดนาม
เวียดนาม กลายเป็นเมืองท่องเที่ยวที่เป็นที่นิยมสำหรับนักเดินทาง ทั่วโลกต่างใฝ่ฝันอยากมาเยือนสักครั้งในชีวิต เสน่ห์ ของเวียดนามดึงดูดคนทั่วโลก สำหรับนักเดินทางชาวไทย อย่างเราก็ย่อมรับด้วยใจจริงว่าเวียดนามมีเสน่ห์จริง ไม่พูดถึง เมือง ดาลัต Da lat ไม่ได้เลยถ้านึกถึงเวียดนาม ดาลัต เป็นเมืองที่สถาปัตยกรรมคล้ายกรุงปารีส จนได้รับการขนานนามว่า Le Petit Paris เป็นเมืองเล็ก เงียบสงบ เต็มไปด้วยทิวสน และมวลดอกไม้นานาพันธ์ุ จนได้รับการขนานนามว่า เมืองแห่งดอกไม้ อีกเมืองที่ไม่ไปเยือนไม่ได้คือ ดานัง Danang เมืองศูนย์กลางธุรกิจท่องเที่ยว เป็นเมืองท่าสำคัญ มีสนามบินนานาชาติ Danang และ ท่าเรือ Tien Sa Seaport ถือว่าเป็นเมืองที่สำคัญ ของเวียดนามอีกเมืองหนึ่งเลยที่เดียว มาต่อกันที่เมืองเก่าแก่ อย่างฮอยอัน Hoi An old town ในอดีตเคยเป็นเมืองท่าที่ใหญ่ที่สุดในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เป็นเมืองท่าบนปากแม่น้ำ ทูโทน เป็นศูนย์กลางทางการค้าในช่วงศตวรรษที่ 16 -17 ชาวต่างชาติ มาตั้งถิ่นฐานค้าขายในบริเวณนี้ เป็นอันมาก และองค์การยูเนสโก ได้ขึ้นทะเบียนเขตเมืองเก่าของฮอยอันให้เป็นมรดกโลกอีกด้วย
ดื่มด่ำเสน่ห์เวียดนามประสบการณ์ที่น่าจดจำ
เมืองฮานอย เป็นเมืองใหญ่ และเป็นเมืองหลวงของเวียดนามเหนือ เมื่อรวมเหนือใต้จึงยังเป็น เมืองหลวงของเวียดนามในปัจจุบัน ฮานอย ผสมผสาน มรดกทางวัฒนธรรมและความทันสมัย ไว้ได้อย่างลงตัว มีทั้งความสงบ และความวุ่นวาย แต่ทั้งหมดที่ฮานอยมีให้นักเดินทางคือ เสน่ห์ และยังมีสถานที่มากมาย ที่รอให้นักเดินทาง ทั่วโลกฝันอยากมาเยือนสักครั้ง
ในชีวิต ย่านโอลควอเตอร์ old quorter ที่เต็มไปด้วยเสียงอึกทึกคึกโครมผสมผสานอย่างไม่ลงตัวเท่าไหร่กับสถาปัตยกรรมแบบดังเดิม แต่ก็มีเสน่ห์แบบเวียดนามเสน่ห์ของเวียดนามเอง อีกทั้งชมโบราณสถาน จากเหตุการปฏิวัติที่ชาวเวียดนามให้ความสำคัญเป็นอย่างมาก เช่นสุสานโฮจิมินห์ Ho chi Minh
ความสงบวุ่นวายสามารถผสมผสานกันได้อย่างลงตัว
โฮจิมินห์ ชื่อเดิม ไซ่ง่อน เราชอบชื่อนี้มากกว่า เป็นเมืองใหญ่สุด ของเวียดนาม อยู่บริเวณสามเหลี่ยมปากแม่น้ำโขง โฮจิมินห์ เป็นศูนย์กลางทางเศรษฐกิจ ของเวียดนาม และเพิ่งรู้ว่า โฮจิมินห์ เคยอยู่ในการปกครองของ เขมรมาก่อน เดิมชื่อ ไพรนคร ไซ่ง่อน เป็นเมืองหลวงของเวียดนามใต้ เมื่อเวียดนาม เหนือยึดได้จึงเปลี่ยนชื่อเป็น นครโฮจิมินห์ และมีสถานที่ น่าเที่ยวชมมากมาย เช่น ตลาดเบนถั่น ขายของฝากสำหรับนักเดินทาง เสื้อผ้า อาหาร หลากหลาย เป็นตลาดที่ใหญ และจากนั้นมาที่ Ho chi Minh city hall เป็นอาคารสไตล์ฝรั่งเศส แบบโคโลเนียล สวยแต่เศร้า ก็เมืองอาณานิคมลองย้อนนึกถึงชาวเวียดนามต้องใช้ชีวิตรวมกับชาวฝรั่งล่าอาณานิคมในเวลานั้นดูชิ ยังโฮจิมินห์ ยังมีวิหารนิกายโรมันคาทอลิก Notre-Dame Cathedral of Saigon และยังมี Saigon post offfice เป็นที่ทำการไปรษณีย์ ที่สวยงามคลาสสิก และอีก หนึ่งสถานที่ที่พลาดไม่ได้คือ เมื่อมา ไซ่ง่อน คือพิพิธภัณฑ์ ที่แสดงเรื่องราว สมัยล่าอาณานิคมของฝรั่งเศสให้ได้ชมและเรียนรู้อดีตของเวียดนามได้เป็นอย่างดี และยังมีโรงระครเก่า สไตล์โคโรเนียล Saigon opera house
เมื่อนึกถึงชาวนาต้องเวียดนามจริงหรือ
ยังมีความงาม และเสน่ห์ของเวียดนามที่น่าสนใจรอคอยการมาเยือนของนักเดินทาง การเชื่อมต่อ กับวัฒนธรรม ของเวียดนาม จะช่วยให้ได้สัมผัสกับความงามทางศิลปะ มนต์เสน่ห์ ในพื้นที่วัฒนธรรมสมัยใหม่ สถาปัตยกรรม เพื่อประสบการณ์ ที่น่าจดจำ อีกอย่างที่น่าจดจำสำหรับเวียดนาม คือ ชุดอ๋าวหญ่าย ชึ่งเป็นชุดประจำชาติ ส่วนมากนิยมใส่กันในเมืองใหญ่ ต้อนรับแขกเมือง แบบเป็นทางการ และเวียดนามยังมีสนามบินนานาชาติ อยู่ถึง 10 แห่ง สะดวกสบาย ในการเดินทางสู่เวียดนามเป็นอย่างมาก สำหรับ ผู้ที่เรียกตัวเองว่า ฉันคือนักเดินทาง treveling is my life การเดินทางทำให้เป็นคนถ่อมตัว เราเล็กเหลือเกินเมื่อเทียบ กับโลกใบนี้
♦♦♦♦♦♦
don’t listen to what they say, go see