เมืองกัลกัตต้า (Kolkata)ทริปนี้ classic exotic love

Posted on
virgovirgin,kolkata,calcutta,incredible india,art of travel,exotic journey,life is travelling,
virgovirgin,virgovirgin art of travel,finest travel,finest designer travel,travel designer,incredble india, exotic destination,india,himalaya,thailand

การเดินทางครั้งนี้แพลนไว้เป็นทริป Kolkata classic luxury through simply เป็นไปได้แน่นอนเพราะครั้งนี้มีผู้นำทางเป็นเจ้าของบริษัททัวร์ชึ่งกลายเป็นเพื่อนที่ค่อนข้างสนิทกันวันนี้เลยย่อมทำตามใจดิฉันทุกอย่างที่ต้องการในกัลกัตต้า Kolkata เมืองใหญ่อันดับ 2 ของประเทศอินเดีย เคยเป็นเมืองหลวงเก่าของประเทศอินเดีย เป็นเมืองที่มีชีวิตชีวาไปด้วยงานเทศกาลทางศาสนา หลากหลายวัฒนธรรมทั้งแบบเก่าและแบบใหม่ ระบบศักดินามีให้เห็นไม่เคยหายไป นี้คือความเป็นอินเดีย และยังเป็นเมืองผสมผสานระหว่างตะวันตกและตะวันออก เริ่มจากเมืองท่าสถานีการค้าเล็กๆ บนชายฝั่งตะวันออก กัลกัตต้าเจริญขึ้นเป็นเมืองใหญ่ พรั่งพร้อมไปด้วยเวียงวังในยุคอังกฤษ และปัจจุบันก็กลายเป็นศูนย์กลางทางวัฒนธรรมที่มีชีวิตชีวาแบบอินเดียแท้ไม่แพ้ Old Delhi Bombay แต่สำหรับตัวเราเวลานึกถึงความวุ่นวายสับสนและความเป็นเมืองจะนึกถึง เมือง กัตกัตตา ที่นี้มีเทพที่โดดเด่นที่สุดในเมืองคือใบหน้าของ ‘เจ้าแม่กาลี’ ซึ่งเป็นเทวีที่ชาวโกลกาเตียนเคารพนับถือมากที่สุด และวัดของเจ้าแม่กาลีที่โด่งดังที่สุดคือวัดกาลีกัต คือชุมชนนักปั้นริมแม่น้ำฮูลี แม่น้ำสายหลักเมืองโกลกาตา ที่นั่นเต็มไปด้วยบ้านนายช่างที่ปั้นหุ่นเทพเจ้าหลากหลายองค์ โดยมีดวงตาเป็นส่วนที่ศักดิ์สิทธิที่สุด ต้องลงสีโดยช่างฝีมือเฉพาะทางเท่านั้น เมื่อวาดดวงตาเสร็จ นั่นคือองค์เทพได้ลงมาสถิตแล้ว

virgovirgin,virgovirgin art of travel,finest travel,finest designer travel,travel designer,incredble india, exotic destination,india,himalaya,thailand

สภาพแวดล้อมโกลกาตาก็ไม่ต่างจากกรุงเทพฯ มากนัก เต็มไปด้วยอาคารคอนกรีตสูงโรงแรมห้าดาวเกิดขึ้นมากมาย ณ วันนี้ กัตกัตตา เปลี่ยนแปลงไวมากในเวลา สองสามปีที่ผ่านมา เอาละกลับมาที่เมืองหลวงสุดล้ำของรัฐเบงกอลตะวันตก (West Bengal) ที่มีทั้งรถไฟใต้ดินแล่นฉิว ห้างสรรพสินค้าหรูหรา สนามบินนานาชาติใหญ่โต จนต้องลบภาพจำเกี่ยวกับอินเดียสุดเชย สลัมซอมซ่อ หรือคนอึข้างทางทิ้งไป ท่ามกลางแสงสีของเมือง วัฒนธรรมและศาสนายังคงเข้มข้น ผสมผสานเข้ากันลงตัว เหมือนชามาซาลาใส่นมรสนุ่มเผ็ดเครื่องเทศ คนอินเดียที่นี้ชอบดื่มชามาซาลากันมากเหมือนถ้าวันไหนไม่ได้ดื่มคงขาดใจตาย จะว่าไปดิฉันเองมาอินเดียบ่อยก็ดื่มจนหลงชอบในรสชาติแบบ exotic ยังไงล่ะ แบบ มีรสชาติ มีตัวตน มีจิตวิญญาน แบบไม่ดื่มก็ได้แต่ขาดไม่ได้ ประมาณนั้น ที่นี้กัตกัตตา การเปลี่ยนแปลงไม่เฉพาะโครงสร้างของเมืองแต่ร่วมถึง เด็กหนุ่มสาวรุ่นใหม่ เข้าแถวกับเมนูอาหารต่างสัญชาติในร้านฟาสต์ฟู้ด แต่ถึงกระนั้นก็ยัง มีวัดฮินดูขนาดเล็กใหญ่แทบทุกตรอกซอกมุมสลับกันไปกับ ร้านอาหารสัญชาติฝรั่ง life style แบบชาวตะวันตก บ้างนั่งจิบชาในร้านแบบเน้นการdesign ก็มีให้เห็นในเมืองเก่าแก่แห่งนี้

virgovirgin,virgovirgin art of travel,finest travel,finest designer travel,travel designer,incredble india, exotic destination,india,himalaya,thailand

ทีนี้ ลองมาเดินที่ เชาว์ลิงกี้ ..Chowringhee กันหน่อย ที่นี้เป็นย่านเมืองเก่า ตั้งอยู่ทางทิศตะวันตกของเมืองกัลกัตตา เมืองหลวงของรัฐ West Bengal ..Chowringhee เป็นย่านที่มีความเก่าแก่มาตั้งแต่ยุคที่อินเดียยังเป็นอาณานิคมของอังกฤษ ตั้งแต่สมัยศตวรรษที่ 17 เรียกว่าเป็นศูนย์กลางของความเจริญในยุคนั้นเลยก็ว่าได้ David William Martin เขียนไว้ใน The changing face of Kolkata ว่า Chowringhee เปรียบเสมือนย่าน Piccadilly ในกรุงลอนดอน ย่าน Fifth Avenue ในนิวยอร์ค และ Champs Elysees ใน Paris ใช่เลย Chowringhee ในกัตกัตตา มันต่างกันตรงไหน อันที่จริง Chowringhee เป็นทั้งย่านการค้า และย่านธุรกิจ มีตลาดเก่าแก่ที่ชื่อว่า New Market ที่มีข้าวของขายทุกอย่างตั้งแต่ตลาดสด ผลไม้ ไปจนข้าวของเครื่องใช้ต่างๆ ผ้าจากแคชเมียร์ ส่าหรี และเสื้อผ้า เครื่องประดับต่างๆ สถานที่สำคัญต่างๆในย่านนี้ก็มี สวนสาธารณะ The Park , พิพิธภัณฑ์ ,ที่ทำการของรัฐบาลรัฐเวสต์เบงกอล ,Victoria Memorial Hall, มีโรงแรมเก่า อย่าง The Oberoi Grand ที่เปรียบได้กับ โรงแรมโอเร็นเต็ล Oriental Bangkok ในบ้านเรา เป็นแลนด์มาร์ค บนถนน Jawaharlal Nehru Road ที่ตามริมถนน เต็มไปด้วยร้านค้าแผงลอยขายของราคาถูก ช่างแตกต่างกับโรงแรมอย่างฟ้ากับดินเลยทีเดียว แค่เดินออกจากรั้วโรงแรมก็จะเจอเสียง และความวุ่นวาย แบบอยู่กันคนละโลก และถ้าเดินต่อไปก็จะเจอกับ Park Street ซึ่งก็มีร้านค้า แผงลอยตลอดทางขายทั้งของกิน ของใช้ เสื้อผ้า กำไล ทั้งชา นมเปรี้ยว ถั่ว และอีกมากมาย นอกจากนี้ก็ยังมีสถานที่สำคัญทางศาสนาคือ โบสถ์เจ้าแม่กาลี Kalighat temple ที่ในจารึกบอกไว้ว่า โยคี Chourangi Giri ผู้ที่ได้พบภาพใบหน้าของเจ้าแม่กาลี ที่นี่ และสร้างโบสถ์เจ้าแม่กาลี ขึ้น ณ ที่แห่งนี้ และก็ทำให้ย่านนี้ได้ชื่อตามโยคีผู้นี้ด้วย ถ้ามาเยือนกัตกัตตาต้องไม่พาดถนนสายนี้ ขอแนะนำให้เดินตอนเย็นหรือกลางคืนจะได้บรรยากาศมากๆ

virgovirgin,virgovirgin art of travel,finest travel,finest designer travel,travel designer,incredble india, exotic destination,india,himalaya,thailand

มาชมภาพบรรยากาศกันเลยค่ะ โรงแรม ที่เป็นแลนด์มาร์คของย่านนี้ The Oberoi Grand แนะนำว่าถ้าไปเที่ยวกัลกัตต้าด้วยตัวเอง ควรพักที่นี่ เพราะใกล้ตลาด New Market ที่มีของทุกอย่างขาย ตั้งแต่ กำไล ผ้าจากแคชเมียร์ ผลไม้ และใกล้รถไฟฟ้าใต้ดิน ที่เห็นนั่งๆกันอยู่นี่ ไม่ใช่นั่งพักเหนื่อย หรือจะมาขอทาน แต่เป็นช่างไม้ ช่างซ่อมของต่างๆ เขานั่งรอพร้อมอาวุธประจำกาย รอให้ลูกค้ามาเลือกไปทำงาน ตลาดแรงงานของแท้และดั้งเดิมจริงๆ นั่งกันเต็มริมถนนเลยจากตรงนี้สามารถเดินไปสถานที่อื่นๆได้สะดวก และยังใกล้กับสถานที่สำคัญอื่นๆ แบบเดินถึง อย่างพิพิธภัณฑ์ เป็นต้น ตามข้างทาง มีอาหารขายมากมาย Street food แท้ๆ ทั้งอาหาร ผลไม้ เครื่องดื่ม อันแรกนี่เป็นนมเปรี้ยว เรียกว่าลาสซี่ ใส่ในถ้วยดินเผา ดูดีทีเดียว เห็นว่าช่วยให้รสชาติดีขึ้น แต่ไม่แนะนำให้ทานอาหารข้างทางเด็ดขาด อาจท้องเสียเที่ยวไม่สนุกได้ ร้านชา พบเห็นได้ทั่วไปตามถนน มีถ้วยดินเผาใบเล็กๆให้ใส่ชาแบบอินเดีย ดื่มกันร้อนๆ ริมถนนนั่นเลยไม่ใช้โฟม หรือพลาสติก อาจเพราะแพงและหายากกว่า แต่ก็ดีนะ เพราะดินเผาย่อยสลายได้ง่ายกว่า ระบบจัดการขยะของอินเดียยังแย่มาก ถ้ามีพลาสติก และโฟมเยอะ คงแย่กว่านี้อีกหลายเท่าตัวที่นี่เป็นเมืองหลวงเก่าของอินเดียสมัยอังกฤษเป็นเจ้าอาณานิคม เราจะเห็นชีวิตที่อยู่แบบขนบเดิมๆ กับอีกส่วนนึงที่กำลังพัฒนาร่วมกัน โกลกาตาเป็นเมืองที่ถ่ายรูปตรงไหนก็เท่ ความน่ารักเป็นกันเองของคนที่นี่ทำให้ยิ้มได้เสมอ

virgovirgin,virgovirgin art of travel,finest travel,finest designer travel,travel designer,incredble india, exotic destination,india,himalaya,thailand,yupha moonsarn

 
♦♦♦♦♦♦

“Some said that trust your journey trust the process raise your energy and the right people
will come into your life”